บทความที่ได้รับความนิยม

วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567

ราชบุรี จัดท่องเที่ยวราชบุรี ของดีเมืองโอ่ง และงานกาชาดยิ่งใหญ่กว่าเดิม

เมืองโอ่ง จัดยิ่งใหญ่ งานท่องเที่ยวราชบุรี ของดีเมืองโอ่ง เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ สนับสนุนผลิตภัณฑ์สินค้าจากชุมชนให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น
จังหวัดราชบุรี ถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย เช่น การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเพณี และการท่องเที่ยววิถีชุมชน รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่ และยังมีความเจริญทางเศรษฐกิจ ซึ่งมาจากภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ เมืองเกษตรสีเขียว และเป็นศูนย์รวมของสินค้าเกษตร สินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้จังหวัดราชบุรี ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งอาหารอร่อย ดังนั้นเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของดีในจังหวัดราชบุรีให้ประชาชนทั่วไปให้รู้จัก โดยให้ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น
จังหวัดราชบุรี จึงร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรี จัดทำโครงการเมืองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคุณภาพ “ท่องเที่ยวราชบุรี ของดีเมืองโอ่ง และงานกาชาด ประจำปี 2567” เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดราชบุรีตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งในส่วนของเมืองหลัก เมืองรอง และการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อกระจายรายได้ในรูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน สร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้จังหวัดราชบุรีเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์สินค้าจากชุมชนให้มีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น
กิจกรรมภายในงาน จะมีการออกร้านมัจฉากาชาด การจัดขบวนแห่ของทุกอำเภอ การแสดงสินค้า “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” จากทุกอำเภอและผู้ประกอบการในพื้นที่การแสดงสินค้าจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และสินค้าพาณิชย์ในพื้นที่จังหวัดราชบุรีการจัดประกวดพืชผัก ผลไม้ การจัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตร การจัดกิจกรรมด้านการประมง การจัดแสดงปลาสวยงามการจัดกิจกรรมด้านการปศุสัตว์ ถนนอาหารอร่อยจากร้านชื่อดังของจังหวัดการประดับตกแต่งไฟ จุดเช็คอิน อุโมงค์ไฟ จุดถ่ายรูป แหล่งท่องเที่ยวการจัดคาราวานสินค้า กิจกรรมบนเวทีกลาง ในงาน พิธีเปิดงาน มีการ การแสดงหนังใหญ่วัดขนอน การประกวดธิดาโอ่ง การประกวดร้องเพลงผู้นำท้องถิ่น การแสดงของชมรม To Be Number One การแสดงเดินแบบผ้าไทย ใส่ให้สนุก การประกวดร้องเพลงผู้นำท้องที่ การออกรางวัลสลากกาชาดเพื่อการกุศล การแสดงดนตรีของนักเรียน การแสดงของศิลปินนักร้อง การแสดงรำวงมหาดไทยการแสดงศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด การแสดงดนตรีย้อนยุค การแสดงดนตรีคอนเสิร์ตของวงดนตรีชื่อดังบนเวทีคอนเสิร์ต aim witthawat) หนิง เดอะวอยซ์ ทิดเอม บักคนซั่ว ASIA 7 วง LEMONY MONICA วง Clockwork Motionless เอิ้ต ภัทรวี ดิด คิตตี้ วง PLAYGROUND กิจกรรมเวทีโซนกาชาด การแสดงดนตรีคอนเสิร์ตของวงดนตรีชื่อดัง บนเวทีคอนเสิร์ตกานต์ ทศน และ ใบข้าว ไทยบ้านเดอะซีรีส์ โบว์ ซุปเปอร์วาเลนไทน์ LOMO Sonic เนสกาแฟ ศรีนคร เก๋าซึม โคราช ของแทร่! จ่อย ไมค์ทองคำ หลี่ชัง ไหทองคำ SLUM มงคลเปิดประตูให้เปี๊ยกหน่อย Big ass ONLY MONDAY
นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า เป็นความตั้งใจจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่มีความสมบูรณ์แบบเพื่อจะรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในจังหวัดราชบุรี รวมถึงนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ของดีของเด่นสินค้าที่มีชื่อเสียงรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในบ้านเรา ในส่วนของมัจฉากาชาดซึ่งจะมีพี่น้องประชาชนมาร่วมทำบุญมีการจับสลากซึ่งรางวัลสมนาคุณเราจะใช้สินค้าที่มีอยู่ในพื้นที่เป็นรางวัลให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมทำบุญในร้านมัจฉากาชาด ที่สำคัญไปกว่านั้นยังมีอุโมงไฟ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีจุดเช็คอิน ถ่ายรูป และมีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมาจากทุกอำเภอมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวได้ชิมของดีของอร่อยพร้อมทั้งมีการเดินแบบผ้าไทยจะได้เห็นถึงความสวยงานของผ้าไทยที่โดดเด่นเพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีอาชีพและมีรายได้มากยิ่งขึ้นและมีกิจกรรมเสริมที่สำคัญการประกวดธิดาโอ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของการจัดงานอีกด้วยเพราะจังหวัดราชบุรีก็คือเมืองโอ่งจะสื่อให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีการประกวดร้องเพลงองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านและเด็กๆ พร้อมทั้งการแสดงของกลุ่มชาติพันธ์ที่มีถึง 8 ชาติพันธ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามเสิ้อผ้าอาภรณ์ต่างๆทั้ง 8 ชาติพันธ์เข้ามาร่วมกิจกรรม จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียงให้เดินทางมาท่องเที่ยว ชม ช้อป ชิม และมาร่วมสนุกกับมหกรรมงาน “ท่องเที่ยวราชบุรี ของดีเมืองโอ่ง และงานกาชาด ประจำปี 2567” ที่จัดกันถึง 10 วัน 10 คืนในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม - 9 เมษายน 2567 ที่บริเวณรอบศาลากลางจังหวัดราชบุรี มาร่วมสนุกศิลปินมากมาย พร้อมทั้งร่วมกันส่งเสริมให้ประชาชนมีพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้า สร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจบ้านเราอีกด้วย

วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

โรงพยาบาลดำเนินสะดวก จัดโครงการสนับสนุนการปฏิบัติงานทีมเชื่อมประสานใจ

โรงพยาบาลดำเนินสะดวก จัดโครงการสนับสนุนการปฏิบัติงานทีมเชื่อมประสานใจ (Care D+ Team) จะทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกมั่นใจและสบายใจว่ามีผู้ดูแลรักษาและเอาใจใส่ดุจญาติ
โรงพยาบาลดำเนินสะดวกจ.ราชบุรี เป็นโรงพยาบาลทั่วไป ขนาด 304 เตียง ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่มุ่งเน้นการให้บริการรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย การส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรคภายใต้นโยบายกระทรวงสาธารณสุข ที่มีผู้รับบริการเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสิ้น 264.353 ครั้ง เฉลี่ยวันละ 925ครั้ง การสร้างความเข้าใจด้วยกระบวนการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นในการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการและผู้รับบริการให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน อันจะทำให้เกิดสัมพันธภาพอันดีระหว่างกัน ผู้รับบริการเกิดความพึงพอใจ ลดข้อร้องเรียนอันเนื่องมาจากความเข้าใจผิดเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้น
ทางด้านนายแพทย์สันติ สุขหวาน ผอ.โรงพยาบาลดำเนินสะตวก จึงได้มีการจัดตั้งทีมเชื่อมประสานใจ (Care D+ Team)โดยมี แพทย์หญิงบุบผา เจริญสิน รอง ผอ.โรงพยายาลดำเนินสะดวกเป็นประธานคณะกรรมการ ฯ เพื่อทำหน้าที่สื่อสารสร้างความเข้าใจระหว่างผู้ป่วย ญาติ และบุคลากรสาธารณสุขด้วยหลักการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ด้วยการลงพื้นที่ปฏิบัติหน้างานที่แผนกผู้ป่วยนอก และบริเวณจุดให้บริการสำคัญของโรงพยาบาล และเพื่อให้เป็นที่สังเกตได้ง่ายของผู้ป่วยและผู้รับบริการในการติดต่อสอบถาม ประสานหารือการเข้ารับบริการต่างๆ อันจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้จัด "โครงการสนับสนุนการปฏิบัติงานทีมเชื่อมประสานใจ (Care D+ Team) ขึ้นเพื่อให้ผู้ป่วย ญาติ และผู้รับบริการเกิดความพึงพอใจในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลดำเนินสะดวก เพื่อให้ผู้ป่วย ญาติ ผู้รับบริการ และบุคลากรสาธารณสุขมีความเข้าใจกันและเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และบรรยากาศการทำงานที่ดีในการปฏิบัติงานระหว่างผู้ป่วย ญาติผู้รับบริการและบุคลากรสาธารณสุขสู่กลุ่มเป้าหมาย โดยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลพร้อมด้วย คณะกรรมการเชื่อมประสานใจ (Care D+ Team) ผู้ผ่านการอบรมตามโครงการ และหัวหน้าหน่วยงานตลอดจนผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 38 คน ให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิ์ภาพ ในพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยนอกและผู้รับบริการทั่วไป ซึ่งจะเป็นความสำเร็จ สามารถทำให้จำนวนข้อร้องเรียนจากสาเหตุความเข้าใจคลาดเคลื่อนลดลง ทำให้ผู้ป่วย ญาติ และผู้รับบริการมีความพึงพอใจ เมื่อผู้ป่วยไปเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล ได้รับยา และได้กลับบ้าน สิ่งที่มีความชับซ้อนมากกว่านั้นคือการปฏิบัติต่อผู้ป่วยและญาติที่มีความเปราะบางทางอารมณ์ วิตกกังวล หวาดกลัว ท้อแท้และสิ้นหวังจากโรคหรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องมาเข้ารับบริการ ซึ่งหากบุคคลเหล่านั้นได้รับการสื่อสารและเอาใจใส่ที่ดี หรือมีวิธีการขั้นตอนต่างๆ ที่สร้างความเห็นอกเห็นใจ ก็จะทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกมั่นใจและสบายใจว่ามีผู้ดูแลรักษาและเอาใจใส่ดุจญาติ
นายแพทย์สันติ สุขหวาน กล่าวว่า โครงการ Care d+Team โดยทางกระทรวงสาธารณสุข ได้เล็งเห็นว่า เวลาผู้ป่วยมาโรงพยาบาลติดขัดหรือ มีข้อสงสัย และไม่เข้าใจ หลายประการ แล้วบางครั้ง ก็ไม่มีญาติมา จะ เป็นผู้เฒ่าผู้แก่ หรือระบบในโรงพยาบาลมีการเปลี่ยนแปลง พัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่เข้าใจ ว่าจะทำอย่างไร ก็จะเกิดปัญหากันบ่อยๆ ก็จะทำให้มีปากมีเสียงกันกระทบกระทั่ง หรือไม่ค่อยประทับใจ อาจจะด้วยเหตุใดๆก็ตาม จึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา เรามีจะบุคลากรส่วนหนึ่ง ที่ผ่านการอบรม การดูแลผู้ป่วย รู้การบริการด้านต่างๆ จะต้องทำอะไร ตรงไหน จึงได้เอาคนเหล่านี้ เลือกเวลาที่เหมาะสมเอาคนที่อยู่ในโรงพยาบาล ที่มีภารกิจน้อย หรือช่วงที่ออกเวร หรือจะเป็นผู้ที่เกษียณไปแล้ว มีจิตศรัทธาเข้ามาเป็นจิตอาสาที่จะมาช่วยดูแล เปรียบประดุจ ดังญาติของคนไข้ พร้อมทั้งช่วยดูแล กระบวนการด้านต่างๆ ที่เข้ามาโรงพยาบาลและพบหมอ ทั้งใบนัดรับยา ห้องผ่าตัดไปจุดต่างๆ ห้องน้ำ หรือบริการด้านต่างๆ จะต้องเป็นคนดูแล ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ จะ เป็นผู้สูงอายุ จะเข้ามาโรงพยาบาล บางคน ก็มีญาติมา แต่บางคน ก็ไม่ได้มีญาติมา ทีมนี้จึงเปรียบเสมือนญาติของผู้ป่วย ยิ่งปัจจุบันในโรงพยาบาลมีเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยแต่ไม่ใช่ประชาชนจะเข้าใจใด้อย่างสมบูรณ์แบบ การที่เรามีทีมเชื่อมประสานใจ (Care D+ Team) ช่วยการสื่อสารจะทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกมั่นใจและสบายใจว่ามีผู้ดูแลและเอาใจใส่ดุจดังญาติ

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แนวทางแก้น้ำเสียคลองปากท่อ

แนวทางแก้น้ำเสียคลองปากท่ออย่างยั่งยืน


นายวิชาญ รังสีวรรธนะ นายกเทศมนตรีตำบลปากท่อ จ.ราชบุรี กล่าวว่าปัญหาน้ำเสียโดยส่วนใหญ่ เกิดจากสาเหตุ น้ำใช้เหลือจากชุมชน หรือจากโรงงานอุตสาหกรรม ปศุสัตว์ และภาคเกษตรกรรม ที่ปล่อยน้ำเสียหรือผลกระทบจากเคมีภัณฑ์ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำลำคลอง โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการบำบัดหรือการจัดการน้ำที่ดีเทศบาลตำบลปากท่อ จังหวัดราชบุรี ทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับคลองสาขา(คลองปากท่อ) และเป็น คลองทิ้งน้ำของชลประทาน ลงสู่คลองประดู่ และไหลออกไปสู่ทะเล คลองปากท่อจึงเป็นคลองที่รับน้ำไหลผ่านกลางชุมชนปากท่อ ซึ่งมีต้นน้ำที่ไหลผ่านโรงงาน กลุ่มปศุสัตว์ (เลี้ยงสุกร) และบ้านเรือนในชุมชนรอบ ๆ คลอง โดยปกติ คลองปากท่อในช่วงที่มีการส่งน้ำจากคลองชลประทานเพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ทำเกษตรกรทำนา ปีละ 2 ครั้ง น้ำในคลองปากท่อ จะไม่เสีย ซึ่งตรงกับแนวพระราชดำริ น้ำดีไล่น้ำเสียการใช้น้ำที่มีคุณภาพดีช่วยผลักดันน้ำเน่าเสียออกไปและช่วยให้น้ำเน่าเสียเจือจางลง พระราชดำรินี้ได้นำมาแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียใน คลองปากท่อได้เป็นอย่างดี โดยใช้น้ำจากชลประทานเจือจางน้ำเน่าเสียและชักพาสิ่งสกปรกจากคลองต่างๆ ทำให้คลองสะอาดขึ้นได้เป็นอย่างดี แต่สืบเนื่องจากการปล่อยน้ำจากคลองชลประทานนั้น มีกำหนดช่วงระยะเวลาการปล่อยน้ำ ฉะนั้นในช่วงที่ชลประทานไม่สามารถปล่อยน้ำดีไม่ไล่เลี้ยงน้ำเสีย คลองปากท่อ (คลองน้ำทิ้งชลประทาน) ได้ตลอดเวลาซึ่งเป็นแผนการบริหารจัดการใช้น้ำของชลประทานที่มีเหตุผลและความจำเป็นเช่นกัน ก็เป็นช่วงที่น้ำในคลองปากท่อ จะนิ่งและไม่มีการหมุนเวียนของน้ำดีมาใช้ ประกอบกับเป็นช่วงฤดูแล้ง น้ำฝนที่จะตกลงมาเจือจางก็ไม่มี ระดับน้ำในคลองปากท่อ ก็มีความลึกไม่เกิน 1 เมตร ก็จะเริ่มเกิดการเน่าเสียในระยะเวลาหนึ่งและก็ส่งผลกระทบอย่างมากกับ “คลองประดู่ ซึ่งเป็นคลองธรรมชาติที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และยาวนาน ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้เป็นคลองสวยน้ำใสที่ยั่งยืนตลอดไป”

ในปี พ.ศ. 2553 เทศบาลตำบลปากท่อได้ร่วมมือกับองค์กรจัดการน้ำเสียและมหาวิทยาลัยมหิดล ได้มาทำการสำรวจปัญหาและออกแบบระบบการจัดการน้ำเสียในคลองปากท่อที่ส่งผลกระทบต่อคลองประดู่ โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริ มาประกอบใช้ในหลักธรรมชาติ บำบัดธรรมชาติ การบำบัดน้ำเสียด้วยระบบบ่อบำบัดและพืชน้ำประกอบด้วยระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย ระบบบ่อชีวภาพ ระบบหญ้ากรองนำหลักธรรมชาติเหล่านี้ มาใช้กับธรรมชาติ โดยน้ำที่ได้จากบำบัดแล้วมาใช้ในการทำการเกษตรกรรม และใช้เป็นน้ำสำหรับรดสนามหญ้าสนามฟุตบอลและสวนสุขภาพได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งคาดว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ทางเทศบาลตำบลปากท่อ คงจะได้รับการอนุมัติงบประมาณ จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทำเป็นโครงการนำร่องในเรื่องของต้นแบบการจัดการน้ำเสียในชุมชนโดยเทศบาลสมทบงบประมาณตนเอง 10 %

อนึ่ง ปัญหาที่พบเห็นส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ใด ปัญหาที่สำคัญคือการปล่อยน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรม แหล่งปศุสัตว์ ขนาดใหญ่ โดยหลักการจะให้มีการติดตั้งเครื่องบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยทิ้งสู่แม่น้ำลำคลอง แต่ทางปฏิบัติจริง การบริหารจัดการน้ำเสียของโรงงานซึ่งเป็นภาคธุรกิจ นั้นเป็นทุนดำเนินการค่อนข้างสูงมาก เช่นค่าไฟฟ้า ฯ ภาคธุรกิจจะให้ความสำคัญโดยการยอมเสียสละเพื่อสิ่งนี้ได้เต็มที่หรือไม่ ในทางกลับกัน ปัญหาน้ำเสียถือว่าเป็นปัญหาสำคัญลำดับต้น ๆ ของประเทศ ทำไมเราไม่ใช่แนวคิดการทำงานเพื่อความสำเร็จร่วมกัน ดีกว่าใช้หลักกฎหมายเข้าไปคอยเล่นงานและจัดการเป็นระยะ ๆ ซึ่งก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และก็เป็นปัญหาสะสมกันมานานนับสิบปี ก่อนที่จะไม่มีคลองน้ำดีหลงเหลืออยู่อีก โดยภาครัฐจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนอย่างจริงจัง เช่น การออกกฎระเบียบพิเศษเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำเสียของภาคเอกชน เช่น การลดค่าไฟฟ้า มากกว่า 50 % หรือการจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ หรือวิธีการอื่น ๆ ที่เห็นว่าเหมาะสมต่อไป...

สร้างศูนย์เด็กก่อนปฐมวัย

อบต.เขาขลุง สร้างศูนย์เด็กก่อนปฐมวัย


นายภูเบศ โสดสงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เผยว่า ในฐานะ อบต.เขาขลุง เป็นหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ที่รับผิดชอบดูแลการพัฒนาคุณภาพชีวิตรวมทั้งการบริการสาธารณะประโยชน์ให้แก่ประชาชนแล้ว ทางคณะผู้บริหารยังได้ตระหนักและเห็นความสำคัญในการพัฒนาเด็กเล็กก่อนปฐมวัย จึงได้ทำโครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขึ้น ซึ่งใช้พื้นที่บริเวณด้านหลังของสำนักงาน อบต.เขาขลุง เป็นสถานที่ก่อสร้าง โดยทางกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สนับสนุนงบประมาณให้กับทาง อบต.เป็นเงิน 1,200,000 บาท และ อบต.เขาขลุง ได้ตั้งงบประมาณเพิ่มอีก 1,270,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,470,000 บาท (สองล้านสี่แสนเจ็ดหมื่นบาท) การก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์และเปิดรับเด็กการปฐมวัยได้ในปีการศึกษา 2554
นายก อบต.เขาขลุง กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ สามารถจะรองรับเด็กก่อนปฐมวัยได้จำนวน 90 คน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่โรงเรียนอนุบาล ร่วมทั้งยังเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง ที่ต้องออกไปประกอบอาชีพนอกบ้าน ไม่มีเวลาดูแลบุตรของตัวเอง สามารถที่จะนำมาฝากให้ทางศูนย์เป็นผู้ดูแล และทาง อบต ยังได้บริการจัดหารถยนต์รับส่ง ร่วมทั้งเรื่องอาหารและนม ตลอดจนชุดนักเรียนของเด็กๆ ฟรี อีกด้วย.

ป้องกันอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด


นายอำเภอบ้านโป่ง ขอความร่วมมือทุกฝ่าย ช่วยป้องกันอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด


นายครรลอง ยุทธชัย นอภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า นับวันสถิติการเกิดอาชญากรรมและปัญหายาเสพติด ในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง ได้มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้ทางอำเภอจึงได้ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้มีส่วนร่วมมือกันป้องกัน โดยเฉพาะในส่วนของกำนัน-สารวัตรกำนัน และผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสายงานตรงของทางอำเภอ จะต้องช่วยกันสอดส่องดูแลในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงบรรดาผู้ปกครองที่จะต้องดูแลบุตรหลานของตนเองให้ดีด้วย

นายอำเภอบ้านโป่ง กล่าวไปต่อว่า การขอความร่วมมือยังได้เน้นไปที่กลุ่มของผู้ประกอบการ ตามสถานบริการ ร้านอาหารกลางคืน ร้านเกมอินเตอร์เน็ต และโต๊ะสนุกเกอร์ โดยเป้าหมายหลัก คือ ต้องการดึงผู้ประกอบการทุกแห่งให้ความร่วมมือ ในการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และปัญหาอื่นๆ เหมือนเป็นการสร้างรั้วทางสังคมให้เข้มแข็ง เพื่อให้พื้นที่อำเภอบ้านโป่ง เป็นเมืองน่าอยู่ โดยเฉพาะการเอาใจใส่ดูแลเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่เข้าไปใช้บริการตามเวลาที่กำหนด ถือเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเยาวชนเหล่านั้น ส่วนใหญ่ยังขาดวุฒิภาวะ หากมีสิ่งยั่วยุให้ไปในทางเสื่อมเสียก็อาจจะหลงใหลได้ ดังนั้นจึงต้องเร่งรีบดำเนินการป้องกันตั้งแต่นอนนี้ และหากทุกฝ่ายร่วมมือกันเป็นอย่างดี ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาสังคมต่างๆได้อย่างแน่นอน.

พัฒนาสถานศึกษาและนักเรียน

เทศบาลเมืองบ้านโป่ง นำ (Benchmarking) มาใช้พัฒนาสถานศึกษาและนักเรียน ให้เป็นเลิศ




นายพรรณชัย เจนนพกาญจน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ดูแลการศึกษาและส่งเสริมประเพณี เปิดเผยว่า จากการที่ได้ตรวจเยี่ยมและพบปะสนทนากับคณะผู้บริหาร ครู-อาจารย์ ของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลทั้ง 3 แห่ง คือ โรงเรียนเทศบาล 1 (ทรงพลวิทยา) โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดบ้านโป่ง) และ โรงเรียนเทศบาล 3 (ประชายินดี ) ถึงแนวทางในการจัดการศึกษา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรับทราบถึงความต้องการ สภาพปัญหาและอุปสรรคของโรงเรียน ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนให้โรงเรียนในสังกัด เดินทางไปสู่ความเป็นเลิศในทุกๆด้านอย่างถูกทิศทาง จึงจำเป็นที่ต้องพัฒนาด้านการศึกษาทั้งในด้านความสามารถและประสิทธิภาพของครู ความพร้อมของหลักสูตรการศึกษา อาคาร-สถานที่ รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ด้านความรู้ทางวิชาการ คุณธรรม จริยธรรม ให้เท่าเทียมหรือดีกว่าโรงเรียนอื่นๆ จึงได้กำหนดแนวทางการนำ (Benchmarking) มาใช้ในโรงเรียนในสังกัดเทศบาล เพื่อให้การพัฒนางานเข้าสู่มาตรฐานทั้ง 3 ด้าน คือ 1.มาตรฐานด้านการบริหารโรงเรียน 2.มาตรฐานด้านการเรียนการสอน และ 3.มาตรฐานด้านคุณภาพนักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ

ซึ่ง การเปรียบเทียบมาตรฐาน (Benchmarking) จะช่วยให้เห็นภาพรวมของการจัดการศึกษาของโรงเรียน ได้พัฒนาและนำศักยภาพของโรงเรียนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้เท่าเทียมกับโรงเรียนอื่นๆที่ทำดีอยู่แล้ว และทำให้ดีขึ้นไปอีกเพื่อเป็นโรงเรียนที่มีความเป็นเลิศทางการศึกษาในที่สุด.

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อบจ.ราชบุรี มอบทุนการศึกษา

อบจ.ราชบุรี มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาและผู้ด้อยโอกาส




นายพงษ์ศักดิ์ กิจประเสริฐ รองนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งงบประมาณ เพื่อเป็นทุนการศึกษา สำหรับเด็กนักเรียนนักศึกษาและผู้ด้อยโอกาสในท้องถิ่น ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี พิจารณาเห็นว่า มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องส่งเสริมพัฒนาสตรี เด็ก และเยาวชน ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนประชาชนให้ได้รับการศึกษา จึงได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนนักศึกษาและผู้ด้อยโอกาสในจังหวัดราชบุรี จึงได้ตั้งงบประมาณ ประจำปี 2553 เป็นจำนวนเงิน 2,500,00 บาท (สองล้านห้าแสนบาท) และเพื่อให้เด็กและเยาวชนพร้อมทั้งผู้ด้อยโอกาสที่มีฐานะยากจนได้มีโอกาสเพื่อศึกษาต่อ จะทำให้เด็กและเยาวชนมีการศึกษาทั่งถึงอย่างมีคุณภาพ โดยมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาผู้ที่จะได้รับทุนในปีนี้ทั้งสิ้นจำนวน 153 ทุน ซึ่งเป็นระดับ อนุปริญญา 59 ทุน ในระดับปริญญาตรี 76 ทุน โดยมีกำหนดให้ทุนละไม่เกิน 33,000 บาท ต่อทุน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานศึกษาแต่ละแห่งที่เรียกเก็บ สำหรับเป็นทุนดังกล่าวเป็นทุนแบบให้เปล่า ไม่มีการผู้พันใดๆ แต่จะต้องเป็นผู้ที่ไม่ได้รับทุนการศึกษาหรือโครงการกู้ยืมเพื่อการศึกษา